สำหรับกีฬาบิลเลียดแล้ว ในทวีปเอเชียนับว่าเป็น โซนที่มีรายการแข่งขันมากมายหลายรายการ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ทวีปเอเชียของเราเต็มไปด้วย นักกีฬาบิลเลียดฝีมือระดับโลก ทั้งที่เป็นชาวเอเชียโดยกำเนิด รวมถึงผู้เล่นที่โอนสัญชาติมา ทำให้การแข่งขันในทัวร์นาเมนท์ต่าง ๆ มีการแข่งขันที่ยากและเข้มข้นอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่กีฬาระดับภูมิภาคอาเซียนของเรา อย่างการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ โดยเฉพาะคู่แข่งคนสำคัญของ นักกีฬาไทย ก็คือผู้เล่นระดับมือพระกาฬ ที่ย้ายสัญชาติมาเล่นให้กับประเทศ สิงคโปร์ อย่างปีเตอร์ กิลคริสต์

ปีเตอร์ กิลคริสต์นั้น เป็นนักบิลเลียดชาวอังกฤษโดยกำเนิด และเป็นนักกีฬาบิลเลียดระดับยอดฝีมือ คนหนึ่งของโลก มีรางวัลการันตีผลงาน ด้วยตำแหน่งแชมป์โลกถึง 3 สมัย และรองแชมป์โลกอีก 4 สมัย นอกจากความสำเร็จดังที่กล่าวมาแล้ว เขาคนนี้แหละคือโค้ชบิลเลียด คนแรกของทัพนักกีฬาไทย ผู้ถ่ายทอดวิชาบิลเลียดให้กับ หมายเลขหนึ่งของไทยคนปัจจุบัน อย่างอาจารย์รมย์ สุรินทร์ อาจารย์ดร เมืองชล รวมไปถึงตำนานผู้ล่วงลับอย่างปู่ตึ๊ก โคราช ตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว พูดง่าย ๆ คือเขาเป็นระดับอาจารย์ของอาจารย์ หรือถ้าเป็นหนังจีนคงต้องเรียกว่าอาจารย์ปู่เลยทีเดียว

แต่ด้วยความที่โซนเอเชียบ้านเรา มีรายการแข่งขันในกีฬาบิลเลียด ที่มากมายหลากหลายรายการ ทำให้เขาต้องการที่จะย้ายสัญชาติ เพื่อที่จะสามารถลงเล่นในทัวร์นาเมนท์ที่สม่ำเสมอกว่า และประจวบเหมาะกับทางทีมชาติสิงคโปร์ ก็ต้องการที่จะดึงตัวนักกีฬาที่เก่งกาจ เข้ามาสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเขาก้าวเข้าไป รับตำแหน่งโค้ชบิลเลียดให้กับทีมชาติสิงคโปร์ และได้แต่งงานกับภรรยาชาวฟิลิปปินส์ ที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ จึงมีคุณสมบัติที่ลงตัวสำหรับการย้ายสัญชาติ ตามที่ต้องการของทั้งสองฝ่าย

นับตั้งแต่ย้ายสัญชาติมาเล่นให้กับทีมชาติสิงคโปร์ กิลคริสต์ก็นับเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของทัพนักกีฬาไทย โดยเฉพาะในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ซึ่งเขาลงเล่นในนามทีมชาติสิงคโปร์ไปแล้ว 6 สมัย ตั้งแต่ปี 2009 และกวาดเหรียญทองไปถึง 6 เหรียญ และเหรียญเงิน อีก 4 เหรียญ รวมทั้งครั้งล่าสุด เขาก็คว้าทองมาครองได้สำเร็จ โดยเบียดนักกีฬาทีมชาติไทยอย่างยุทธภพ ภาคพจน์ หรือ “นุ๊ก จันท์” ลงไปถึงอันดับสาม หรือได้เหรียญทองแดง

ปัจจุบันปีเตอร์ กิลคริสต์ อายุ 51 ปี ซึ่งในกีฬาบิลเลียด ก็ต้องบอกว่ายังคงเล่นได้อีกนานเลย นั่นเท่ากับว่า นักกีฬาทีมชาติไทย ยังจะต้องเจอกระดูกชิ้นใหญ่นี้ วางขวางอยู่ในซีเกมส์อีกหลายสมัย รวมไปถึงเอเชี่ยนเกมส์ และเอเชี่ยน อินดอร์เกมส์อีกด้วย ไหนจะนักกีฬาฝีมือดีจากประเทศอื่น อย่างพม่า เวียดนาม หรือฟิลิปปินส์อีกต่างหาก ต้องบอกว่าเป็นงานหนักสำหรับนักกีฬาไทยเลยทีเดียว แต่ถ้าจะมองอีกแง่หนึ่ง ปีเตอร์ กิลคริสต์ ก็เป็นความท้าทาย และแรงจูงใจอย่างมาก ให้กับนักกีฬาบิลเลียดไทย ที่จะพัฒนาฝีมือตัวเอง เพื่อก้าวขึ้นไปอยู่เหนือ สุดยอดผู้เล่นอย่างเขา ซึ่งถ้าหากทำได้ คำว่าระดับโลก ก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ด้วยเช่นกัน