นี่คือสิ่งที่ตอกย้ำว่ากีฬาบิลเลียด เป็นกีฬาสำหรับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย อย่างแท้จริง สำหรับความสำเร็จของนักกีฬาสุภาพสตรี ที่ชื่อว่าเจเน็ทท์ ลี หรือเจ้าของฉายาน่าเกรงขามว่า “เดอะ แบล็ก วิโดว์” หรือแม่ม่ายดำ ซึ่งมาจากความร้ายกาจของเธอ ยามเมื่ออยู่บนโต๊ะบิลเลียด ที่อันตรายซะยิ่งกว่าพิษของแมงมุมแม่ม่ายดำ ความสำเร็จบนเส้นทางสายกีฬาของเธอนั้น มากมายขนาดที่ว่า ทำให้เธอถูกยกให้เป็น G.O.A.T. (Great of all time) หรือสุดยอดผู้เล่นตลอดการ ฝ่ายหญิงในกีฬาสายนี้เลยทีเดียว

เจเน็ทท์ ลี นักกีฬาชาวอเมริกัน เชื้อสายเกาหลี โดยเธอเกิดที่บรู๊กลิน ในปี 1971 ซึ่งปัจจุบันเธอมีอายุ 48 ปี เธอเริ่มมีความสนใจ ในกีฬาประเภทนี้ตั้งแต่มีอายุเพียงแค่ 18 ปี ก่อนที่จะเทิร์นโปร เป็นนักกีฬาอาชีพตอนอายุ 21 และเธอใช้เวลาหลังจากนั้นเพียงแค่ปีเดียว เพื่อก้าวขึ้นไปสู่การเป็นผู้เล่นเบอร์หนึ่งของโลก เมื่อเธอสามารถคว้าชัยชนะ ในรายการของสมาคมบิลเลียดอาชีพ ประเภทหญิงหรือ WPBA ถึงสามรายการในปีเดียว คือปี 1993 และได้รับตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยม ในปี 1994 ซึ่งนับว่าเป็นการเริ่มต้น ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วมาก สำหรับชีวิตนักกีฬาคนหนึ่ง

สำหรับฉายา “เดอะ แบล็ก วิโดว์” หรือแม่ม่ายดำของเธอนั้น มันมาจากการตั้งให้ของเพื่อน ๆ ในวงการของเธอ ซึ่งมาจากบุคลิกของเธอ เมื่อลงทำการแข่งขัน ซึ่งถึงแม้ว่าหน้าตาของเธอ จะดูสวยหวาน และอาจจะดูบอบบาง จากการที่เธอต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บกระดูกสันหลัง ที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัดอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็พร้อมที่จะเขมือบคู่ต่อสู้ของเธอได้ตลอดเวลา หรือสามารถกินคนทั้ง ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง เธอจึงถูกยกไปเทียบกับ เจ้าแมงมุมพิษร้ายอย่างแม่ม่ายดำ

ตลอดเส้นทางอาชีพนักบิลเลียดของเธอ เจเน็ทท์ ลี ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย กวาดถ้วยรางวัลมาถึง 27 รายการใหญ่ พร้อมทั้งรางวัลส่วนตัวอีกหลายรายการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นอันดับหนึ่งของวงการ ในแต่ละปี ตลอดช่วงเวลา 15 ปีบนเส้นทางของเธอ ซึ่งจำนวนความสำเร็จมากมายก่ายกอง ของเธอนี่แหละที่ทำให้เจเน็ทท์ ลี ถูกยกย่องให้เป็น นักบิลเลียดหญิง ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล  

ความสำเร็จที่เจเน็ทท์ ลีสร้างไว้บนเส้นทาง การเล่นบิลเลียดอาชีพของเธอ มันอาจจะมากมายจนยากที่จะมีใคร ก้าวขึ้นไปทาบเธอได้บนหอเกียรติยศ แต่เชื่อว่าในอนาคต จะต้องมีคนทำได้อย่างแน่นอน และมันก็มาจากเรื่องราวของเธอนี่แหละ ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และเปิดเส้นทางสายบิลเลียด ให้กับนักกีฬาประเภทหญิง ให้มีความสนใจ และความกล้าที่จะออกมา แสดงฝีมือในการสอยคิว ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ชาย เพื่อต่อยอดสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพได้ อย่างที่เธอเคยทำไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ดังนั้นในอนาคต เราน่าจะได้เห็นนักกีฬาบิลเลียดหญิง ผู้ที่ได้ฉายาว่า “แม่ม่ายดำ” คนต่อไป อย่างแน่นอน