นับเป็นอีกก้าวสำคัญ สำหรับวงการสนุกเกอร์หญิงไทย สำหรับการที่ “แอม ร้อยครู” หรือนางสาววรัตน์ฐนัน ศุภ์กฤศธเนศ สามารถคว้าตำแหน่งแชมป์โลก สนุกเกอร์หญิงสมัครเล่นโลก มาครองได้สำเร็จเมื่อปี 2018 ที่ประเทศเมียนมาร์ ที่แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถ ของนักกีฬาสอยคิวหญิงไทย ว่าสามารถทำได้ดีไม่แพ้นักกีฬาชายเลย แถมในช่วงหลัง ๆ มานี้ดูจะทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ และเธอคนนี้แหละ ที่เป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ ให้แก่วงการสนุกเกอร์หญิงไทย เป็นคนแรก ๆ ของประเทศ

สำหรับ “แอม ร้อยครู” หรือนางสาววรัตน์ฐนัน ศุภ์กฤศธเนศ เป็นคนจังหวัดนครปฐม ปัจจุบันอายุ 27 ปี โดยเธอเริ่มให้ความสนใจ ในกีฬาสนุกเกอร์ มาตั้งแต่มีอายุเพียงแค่ 9 ขวบ และลงทำการแข่งขันรายการแรก ด้วยวัยเพียง 17 ปี เธอก้าวเข้าสู่วงการ ด้วยความที่มีใจรัก และความอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติ จนสามารถเปลี่ยนใจผู้ปกครอง จากที่ไม่อยากให้เล่น เพื่อเอาเวลาไปตั้งใจเรียน จนเปลี่ยนมาสนับสนุนให้เล่นอย่างจริงจัง เอาดีทางนี้ไปเลย และเธอก็ไม่ทำให้ใครต้องผิดหวัง เมื่อเธอสามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชาติ ได้อย่างที่ฝันไว้ และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับ ตัวเองและประเทศชาติอย่างมากมาย

แอมเริ่มสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย จากการแข่งขันเอเชี่ยน อินดอร์ เกมส์ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 2012 ซึ่งเธอสามารถคว้าเหรียญทอง ในการแข่งขันสนุกเกอร์ประเภท 6 แดงมาครอง แล้วหลังจากนั้นหนึ่งปี เธอก็คว้าตำแหน่งรองแชมป์เยาวชนชิงแชมป์โลก ประเภทหญิงได้สำเร็จ เรียกได้ว่าหากใครชอบการวางเดิมพันและตามอยู่ข้างเธอมาตลอดก็รับทรัพย์ไปเต็ม ๆ

และการก้าวขึ้นสู่คำว่าแชมป์โลก ของเธอเกิดขึ้นเมื่อปี 2018 ที่ประเทศเมียนมาร์ เมื่อเธอลงแข่งในรายการ สนุกเกอร์สมัครเล่นหญิงชิงแชมป์โลก ในประเภทสนุกเกอร์ 15 แดง และสามารถฝ่าเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จอีกครั้ง หลังเคยเข้าชิงมาแล้วหนึ่งครั้งในปีก่อนหน้า และคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศของเธอ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือเวนดี้ แจนส์ จากเบลเยี่ยม คนเดียวกับที่เอาชนะเธอได้ในรอบชิงปีก่อนนั่นเอง เรียกว่ากลับมาล้างตากันอีกครั้ง ในรอบชิงของทั้งสองคน และเป็นทางสาวไทยที่เป็นฝ่ายล้างตาได้สำเร็จ ออกคิวเอาชนะไปได้ 5-2 เฟรม ซึ่งก็เท่ากันกับที่เคยแพ้มาครั้งก่อนอีกด้วย เรียกว่าถ้าเอาผลสองครั้งที่เจอกันมารวม ทั้งคู่จะเสมอกันที่ 7-7 เฟรม แบ่งแชมป์โลกกันไปคนละสมัย และการคว้าแชมป์ครั้งนี้ของเธอ ก็เหมือนเป็นการเปิดเส้นทาง สู่แชมป์โลกครั้งต่อ ๆ ไป ของทัพนักกีฬาไทย และตัวเธอเอง โดยหลังจากนั้นมา เธอก็เป็นแชมป์โลกอีกสองครั้ง ในประเภท 6 แดง และประเภททีมหญิงอีกด้วย

เรื่องราวการก้าวไปสู่ทีมชาติ และสามารถเป็นแชมป์โลกได้ นับเป็นการสร้างกระแสด้านบวก ให้แก่วงการสนุกเกอร์ ประเภทหญิงไทยอย่างมาก เพราะเธอเป็นตัวอย่างให้นักกีฬารุ่นหลัง ได้เห็นแล้ว ว่าในเส้นทางกีฬาสนุกเกอร์นั้น นักกีฬาหญิง ก็สามารถจะก้าวไปตามฝัน ในวงการสอบคิวได้เช่นกัน และจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาวงการสนุกเกอร์ ของไทยอย่างมากในอนาคต